ฟันสวย รูปหน้าสวย ใครๆ ก็อยากมี นอกเหนือจากการจัดฟันซึ่งมีผลต่อโครงสร้างของใบหน้าทำให้เราดูดีขึ้น แน่นอนว่าการฉีดโบท็อกซ์เมโสแฟต และ ฟิลเลอร์ เป็นตัวช่วยยอดนิยมที่ทำให้เรามีรูปหน้าที่ดีขึ้น ลดริ้วรอย และ เติมเต็มความสวยงามให้ดูดียิ่งขึ้น แต่เราจะเริ่มทำแบบไหนก่อนดีนะ และควรมีระยะเวลาห่างกันเท่าไหร่ เรามาฟังคำแนะนำจาก ทพญ.กมลทิพย์ สุจริตวณิช (หมอพวง) ทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟันที่เดนทิฟิกกัน
เริ่มจากศัลยกรรมความงามฉีดใบหน้ายอดฮิต การฉีดโบท็อกซ์ และ เมโสแฟต ที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวยิ่งขึ้น ลดเลือนริ้วรอย ลดเหนียง หรือ แก้ม ที่คนส่วนใหญ่นิยมกันมากในตอนนี้ และคำถามที่มีมากที่สุดคือ ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามส่งผลต่อการจัดฟันหรือไม่ และควรฉีดก่อนหรือหลังจัดฟัน คุณหมอแนะนำว่าเราสามารถฉีดก่อนหรือหลังจัดฟันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเพื่อลดริ้วรอย ลดไขมัน หรือลดกราม เพราะการจัดฟันเป็นการปรับแต่งที่กระดูก แต่การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการฉีดในชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งอยู่กันคนละบริเวณ จึงไม่มีปัญหาในการฉีดและไม่มีข้อห้ามใด
ส่วนการฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดริ้วรอย หรือเติมร่องแก้ม สำหรับคนที่ฉีดไปแล้วเรียบร้อยคุณหมอแนะนำให้เว้นระยะห่างประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนจัดฟัน เพื่อให้รอยช้ำหรืออาการปวดหายสนิท แต่สำหรับสาวๆ ที่ชอบริมผีปากที่สวยอวบอิ่ม สไตล์สาวสวย “ไคลี่ เจนเนอร์” ต้องการเติมฟิลเลอร์ที่ปากหรือ เติมคาง แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปปากและคางหลังการจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากก่อนการจัดฟันคุณหมอจะประเมินการดึงฟันเข้าให้เหมาะกับรูปปากและคางของเราไว้ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ระหว่างการจัดฟันอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการวิเคราะห์โครงหน้าโดยเฉพาะรูปปากและคางของเรา
เช่นเดียวกันการฉีดฟิลล์เลอร์ปากและคางหลังจากการจัดฟันจะทำให้คุณหมอหน้าสามารถประเมินปริมาณในการฉีดฟิลเลอร์ให้เหมาะสมรับกับรูปหน้าธรรมชาติของเราได้แม่นยำและสวยงามได้มากขึ้น
ทีนี้เราก็ตัดสินใจกันได้แล้วว่าจะเลือกทำแบบไหนก่อนดี แต่หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เดนทิฟิก พร้อมที่จะให้คำปรึกษาและแนะนำเพื่อเพิ่มความสบายใจและสร้างความมั่นใจให้กับคุณ ติดต่อเราได้ที่ 091-068-1490 หรือ Facebook Dentific Dental Clinic
Comments